อุทยานแห่งชาติครูเกอร์ ตั้งอยู่ที่เมืองเคปทาวน์ ทิศตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศแอฟริกา ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1926 ชื่อครูเกอร์นั้นตั้งขึ้นตามอดีตประธานาธิบดีพอล ครูเกอร์ แห่งสาธารณรัฐทรานส์เวล ชื่อเดิมคือ เขตสงวนล่าสัตว์ซาบี มีความยาววัดจากทิศเหนือถึงทิศใต้ 560 กิโลเมตร มีพื้นที่ราว 20,000 ตารางกิโลเมตร หรือราว 4.8 ล้านเอเคอร์ เป็นอุทยานแห่งแรกที่มีกฎหมายคุ้มครองในแอฟริกาใต้ จัดได้ว่าเป็นอุทยานที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งและมีสัตว์อาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก อีกทั้งมีทรัพยากรธรรมชาติและป่าไม้ที่อุดมสมบูรณ์ เพราะความสวยงามและความสมบูรณ์ของระบบนิเวศน์แบบทุ่งหญ้าสะวันนา องค์การยูเนสโกจึงประกาศให้เป็นหนึ่งในมรดกโลก
ปัจจุบันอุทยานแห่งชาติครูเกอร์นี้ได้มีการเปิดพื้นที่ให้เอกชนเข้าไปสัมปทาน และปรับปรุงพัฒนาเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวจึงเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก เพราะสามารถเที่ยวชมสัตว์ป่ามากมายในสไตล์ซาฟารีที่ได้ชมการดำเนินชีวิตของสัตว์ต่างๆ อย่างใกล้ชิด ที่สำคัญอุทยานแห่งนี้ยังมีสัตว์ป่าที่หาชมได้ยาก เช่น แรดขาวที่มีจำนวนถึงเกือบ 7,000 ตัว สิงโต 2,000 ตัว ช้าง 12,000 ตัว เป็นต้น ที่เป็นไฮไลท์ของที่นี่ก็คือสิงโตขาว ซึ่งมีที่นี่ที่เดียวในโลกนอกจากนี้ก็ยังมีสัตว์อื่นๆ อีกมากมายทั้งนก สัตว์เลื้อยคลาน สัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ ปลา และพันธุ์ไม้หายากต่างๆ ที่มากมายไม่แพ้กัน รับรองว่าไปที่นี่จะเพลิดเพลินไปกับเหล่าสัตว์และธรรมชาติอย่างไม่รู้จักเหนื่อยกันเลยทีเดียว ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเยี่ยมชมอุทยานได้ด้วยรถยนต์ การเดินป่าตามเส้นทางที่เจ้าหน้าที่จัดไว้ให้ หรืออยากชมสัตว์จากทางอากาศที่นี่ก็มีบอลลูนไว้คอยบริการอีกด้วย แต่ที่อุทยานแห่งชาตินี้จะตั้งกฎไว้พิเศษคืออนุญาตให้นักท่องเที่ยวเข้าชมสัตว์ได้เพียงคนละไม่เกิน 3 ชั่วโมงเท่านั้น เพื่อไม่ให้รบกวนสัตว์มากจนเกินไป ยกเว้นการเดินป่าซึ่งนักท่องเที่ยวจะต้องลงชื่อไว้และมีเจ้าหน้าที่พาเดินไปตามเส้นทางที่สามารถเห็นสัตว์ป่าได้ชัดเจนและปลอดภัย อุทยานแห่งชาติครูเกอร์แห่งนี้จะมีอากาศร้อนมากในฤดูร้อน มีฝนตกชุกในฤดูฝนและผืนป่าจะเต็มไปด้วยเหล่านกอพยพที่ย้ายถิ่นมาพำนักอยู่ที่นี่ซึ่งเหมาะกับนักท่องเที่ยวที่นิยมชมชอบในการส่องนก ส่วนฤดูที่เหมาะกับการดูสัตว์มากที่สุดก็คือฤดูหนาว จะมีอากาศเย็นพอประมาณและแห้งแล้งจะทำให้มองเห็นสัตว์ได้ง่าย
ด้วยความที่อนุญาตให้เอกชนเข้าไปสัมปทานจึงมีที่พักไว้คอยบริการมากมาย สะดวกสบาย และมีสิ่งอำนวยความสะดวก มีทั้งเป็นที่พักแบบธรรมชาติได้แก่ กระท่อม บ้านหิน บ้านดิน เพื่อให้ผู้ที่ได้เข้าพักได้บรรยากาศที่แนบชิดกับธรรมชาติที่สุด อีกทั้งมีบริการด้านอาหารอย่างหลากหลาย ทั้งเนื้อสัตว์แปลกๆ ที่คุณอาจหารับประทานจากที่อื่นไม่ได้ แต่ที่นี่คอยให้คุณไปเยี่ยมชมและลิ้มลองอาหารได้อย่างครบถ้วนแน่นอน
