หากพูดถึงป่า พูดถึงธรรมชาติที่เป็นพื้นที่ขนาดใหญ่ เชื่อว่า อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เป็นคำตอบแรกของใครหลายคนเลยก็ว่าได้ อุทยานแห่งชาตินี้เปรียบเสมือนพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ของประเทศที่เต็มไปด้วยป่าไม้ สัตว์ น้ำ พืช และอีกมากมายที่หล่อเลี้ยงประชากรในพื้นที่ และ สร้างอากาศบริสุทธิ์ดูแลคนทั้งประเทศเลยก็ว่าได้ เรามาทำความรู้จักกันว่า อุทยานแห่งชาตินี้มีที่มาที่ไปอย่างไร เราคงคุ้นชื่ออุทยานแห่งชาติเขาใหญ่กันมาบ้าง อุทยานแห่งนี้นับว่าเป็นผืนป่าแห่งสำคัญของประเทศเลยก็ว่าได้ อุทยานแห่งนี้กินพื้นที่มากถึง 2,215.42 ตารางกิโลเมตร พื้นที่ทั้งหมดคาบเกี่ยว 11 อำเภอ 4 จังหวัดด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น จังหวัดนครราชสีมา, จังหวัดปราจีนบุรี, จังหวัดนครนายก และจังหวัดสระบุรี ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นอุทยานแห่งชาติลำดับแรกของประเทศไทย ตั้งแต่เมื่อปี พ.ศ. 2505
ลักษณะภูมิประเทศ
ป่าในเขาใหญ่หากนับตามสภาพทางธรรมชาติจะต้องบอกว่า มันคือป่าที่มีความหลากหลายในตัวเองผสมผสานกันไม่ว่าจะเป็น ป่าเบญจพรรณ ป่าดงดิบแล้ง ป่าดงดิบชื้น ป่าดิบเขา ทุ่งหญ้า โดยพื้นที่ป่าแห่งนี้จะอยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเลประมาณ 400-1,000 เมตร ความอุดมสมบูรณ์ของป่าทำให้เราสามารพบเห็นพืช และสัตว์มากมายหลายชนิด ตามข้อมูลระบุว่ามีพืชกว่า 3,000 ชนิด ผีเสื้อ 189 ชนิด นกป่า 350 ชนิด และสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมอีกมากมายกว่า 71 ชนิด อาศัยอยู่ตามจุดต่างๆ ของพื้นที่ในอุทยานแห่งนี้
ประวัติของเขาใหญ่
อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่นั้นเป็นพื้นที่ ที่มีความหลังด้านประวัติศาสตร์มากมาย เริ่มจากในสมัยก่อนการเดินทางติดต่อกันระหว่างภาคกลาง และภาคอีสานนั้นจะต้องผ่านป่าดงดิบขนาดใหญ่ที่เรียกว่า ดงพญาไฟ ป่าดงดิบนี้เต็มไปด้วยอันตรายมากมายทั้งสัตว์ร้าย โจร จึงได้มีการสร้างทางรถไฟขึ้นเพื่อให้การติดต่อสะดวก เมื่อมีรถไฟก็มีชาวบ้านขึ้นมาจับจองพื้นที่ทำกินบนยอดเขา นั่นทำให้กลายเป็นตำบลเขาใหญ่ในเวลาต่อมา
แต่ตำบลเขาใหญ่นั้นอยู่ในชัยภูมิที่ยากแก่การปกครอง ทั้งลึก ไกล อยู่สูง เลยทำให้ดินแดนนี้กลายเป็นแหล่งซ่องสุ่มโจรผู้ร้าย ทางการจึงต้องปราบปรามแล้วยุบตำบลเขาใหญ่ให้ชาวบ้านลงมาอยู่ทางด้านล่างแทน ส่วนผู้นำในการปราบโจรครั้งนั้นก็คือ ปลัดจ่าง ท่านได้เสียชีวิตลงด้วยไข้ป่า ชาวบ้านจึงตั้งศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่ เป็นที่เคารพสักการะมาจนถึงปัจจุบัน
เขาใหญ่ในปัจจุบัน
สำหรับอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ในตอนนี้ มีระบบการบริหารจัดการที่ดีมาก ทั้งการดูแลสภาพแวดล้อมให้ถูกทำลายน้อยที่สุด การปลูกป่าเพิ่มเติม การพัฒนาพื้นที่บางส่วนให้เป็นการท่องเที่ยวเพื่อสร้างรายได้ในชุมชน และ สร้างจิตสำนึกการอนุรักษ์ป่าร่วมกัน จึงทำให้อุทยานแห่งนี้ได้รับการยกย่องให้เป็นแหล่งมรดกโลกทางธรรมชาติ จากยูเนสโก ในที่สุดภายใต้ชื่อว่า กลุ่ม ดงพญาเย็น-เขาใหญ่
