อุทยาน หินเขางู ประติมากรรมธรรมชาติ

จังหวัดราชบุรี ถือว่าเป็นจังหวัดที่มีแหล่งท่องเที่ยวมากมายหลายแห่ง หลายแบบด้วย ไม่แปลกที่พอเป็นวันหยุดยาวประมาณ 3 วัน เราจะเห็นคนกรุงเทพ แห่ไปเที่ยวจังหวัดราชบุรีกันเยอะมาก หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของที่นี่ก็คือ อุทยานหินเขางู เรามาดูรีวิวพร้อมกับข้อมูลกันหน่อย

ข้อมูลเบื้องต้น อุทยาน หินเขางู

ชื่อสถานที่ อุทยานหินเขางู เป็นสถานที่ท่องเที่ยวแบบอุทยานหิน มีสวนป่า ตั้งอยู่ที่ตำบลเกาะพลับพลา อำเภอเมือง จังหวัดราชบุร เปิดบริการตั้งแต่ 09.00-17.00 เปิดบริการทุกวัน ไม่เสียค่าเข้าชม การท่องเที่ยวก็จะมีการเดินชมธรรมชาติตามเขาช่องหิน แล้วก็มีการขับเรือเป็ด ให้อาหารปลา สามารถนำสัตว์เลี้ยงเข้ามาได้ สถานที่จอดรถถือว่ากว้างขวางสามารถมาจอดได้ทั้งรถยนต์ และรถทัวร์ การท่องเที่ยวอุทยานหินเขางูแม้ว่าจะไปได้หมดทุกฤดู แต่คำแนะนำควรไปหน้าหนาวจะดีที่สุด หน้าฝนก็ได้แต่อาจจะเจอฝนทำให้การเดินเที่ยวไม่สนุก และถ่ายภาพไม่สวย ตอนกลางวันแดดแรงมาก เนื่องจากเป็นภูเขาหินปูน ดังนั้นเตรียมเครื่องกันแดดไปด้วย

หินเขางู-ราชบุรี

วิธีการเดินทาง แนะนำว่าการเดินทางด้วยรถยนต์จะสะดวกที่สุด ขับรถไปตามทางหมายเลข 3087 ออกจากตัวเมืองราชบุรี ประมาณ 8 กิโลเมตร เจอสี่แยกให้เลี้ยวขวามาตามป้ายบอกทางได้เลย ถ้ามาด้วยรถประจำทางลงที่ตัวเมืองราชบุรี แล้วต่อรถโดยสารที่หน้าธนาคารออมสิน ส่วนรถตู้เลือกนั่งรถสายกรุงเทพฯ – จอมบึง ลงข้างหน้าได้เลย

ประวัติ หินเขางู

อุทยานหินเขางู ถือว่ามีเรื่องราวน่าสนใจดี ต้องเล่าก่อนว่าพื้นที่นี้เดิมทีเป็นจุดทำหิน ย่อยหิน เพื่อทำเป็นปูน ทีนี้การทำอุตสาหกรรมดังกล่าว ทำให้สภาพแวดล้อมเสียไปเยอะมาก จนทำให้พอหมดสัมปทาน ก็เลยขอยกเลิกพื้นที่ตรงนี้ ปล่อยกลายเป็นเหมืองร้างในที่สุด ทางจังหวัดเห็นความเสื่อมโทรมก็เลยหันมาพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวให้กับคนในชุมชน รวมถึงคนทั่วไปในที่สุด

อุทยาน-หินเขางู

รีวิวสถานที่ท่องเที่ยว

รีวิวท่องเที่ยวอุทยานหินเขางูกันหน่อย ต้องบอกเลยว่า สถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้ดูสวยงามมาก เรายังคิดเลยว่ามันคงน่าเสียดายที่หากไม่ได้ถูกพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวแบบนี้ จุดแรกที่เราต้องสักการะก่อนเลยก็คือพระพุทธรูปปางลีลา ที่สร้างแบบนูนต่ำขนาดใหญ่บนหน้าผาแบบเต็ม ทำให้เราอึ้งถึงความสามารถในการสร้างว่าทำไปได้อย่างไร จากนั้นก็ถึงจุดหลักที่ต้องถ่ายรูปเพลินเลยก็คือ สะพานข้ามบึงที่ถือว่าเป็นทางเข้าเพื่อเดินผจญภัยอีกด้วย จะเป็นสะพานแขวนสีขาวน้ำตาลเข้ม มีฉากหลักเป็นภูเขาหิน ตัดกับท้องฟ้าสีครามถือว่าเป็นอีกหนึ่งวิวที่ไม่ควรพลาดถ่ายรูปก่อนเลย ลงสะพานมาก็จะเป็นทางเดินยาวๆ ที่เราชื่นชมความสะอาดของพื้นที่ไม่มีขยะเลย ทำให้ภาพวิวธรรมชาติอย่างมาก แต่ว่าแดดแรงเอาเรื่องเลย เดินได้เหงื่อพอสมควรก่อนจะมาถึงปลายทางที่เราว่าเค้าออกแบบมาสวยมาก ศาลาสีขาวที่ตั้งตรงกลาง แล้วก็มีการทำเหมือนกับเขาวงกตเล็กตัดผ่านไปมาถือว่าสวยเลย คุ้มค่ากับการเดินทางมาถึงตรงนี้

พอเดินกลับมาก็ขอปั่นเรือเป็ดกันสักหน่อย ละอองน้ำของบึงทำให้เรารู้สึกเย็น ผ่อนคลายจากความร้อนได้พอสมควร ปั่นกันเพลินเกือบกลับมาไม่ทันรอบ(เวลารอบละ 20 นาที) จากนั้นก็ให้อาหารปลาสดชื่นกันไป เกือบลืมระหว่างทางตอนเดินสำรวจ เราจะได้เจอเจ้าถิ่นอย่าง ลิงที่มากันเป็นฝูงทีเดียว เราอาจจะซื้ออาหารจากซุ้มด้านหน้าเพื่อแจกให้มันก็ได้ ตรงนี้เราแนะนำว่ากอดของมีค่า หรือของที่มีความแวววาวให้ดี ไม่งั้นด้วยสัญชาติญาณมันอาจจะฉกไปได้ โดยรวมถือว่าเป็นอุทยานท่องเที่ยวที่สนุกดี เที่ยวเพลิน น่ามากันเป็นครอบครัว